วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Preposition แปลว่า "บุรพบท" มีไว้สำหรับ ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างนามหรือสรรพนามกับคำอื่นๆ ในประโยค เช่น

I lay my pen on the table.
ผมวางปากกาของผมไว้บนโต๊ะ
He is going to school.
เขากำลังไปโรงเรียน

(ประโยคแรกจะเห็น on แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง pen กับ table เพื่อจะบอกว่าฉันวางปากกาไว้บนโต๊ะ (ไม่ใช่ที่อื่น) ส่วนประโยคหลังจะเห็น to แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกริยา going กับ school เพื่อบอกให้ทราบว่า เขาไปโรงเรียน (ไม่ได้ไปที่อื่น) เพราะฉะนั้นคำ on และ to ในประโยคข้างบนนี้จึงรียกว่า Preposition หรือบุรพบท)

การแสดงความสัมพันธ์ของ Preposition กับคำอื่นนั้น เมื่อกล่าวโดยหลักใหญ่ๆ มีอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ
  1. แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกริยากับนามหรือสรรพนาม เช่น
    They work in the garden.
    พวกเขาทำงานอยู่ในสวน
    (in แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกริยา work กับคำนาม garden)
    I went with him.
    ผมไปกับเขา
    (with แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกริยา went กับสรรพนาม him)
  2. แสดงความสัมพันธ์ระหว่างนามกับนาม หรือนามกับสรรพนาม เช่น
    The camera on the sofa is mine.
    กล้องถ่ายรูปที่อยู่บนโซฟานั้นเป็นของฉัน
    (on แสดงความสัมพันธ์ระหว่างนามด้วยกันคือ camera กับ sofa)
    I shall send this present to him.
    ผมจะส่งของขวัญนี้ไปให้เขา
    (to แสดงความสัมพันธ์ระหว่างนาม present กับสรรพนาม him)
อนึ่ง นามหรือสรรพนามใดก็ตามที่วางอยู่หลัง Preposition ใด ต้องเป็น Object ของ Preposition ตัวนั้น เช่น
He is looking at me. (อย่าใช้ at I)
เขากำลังดูฉัน
She thought of us. (อย่าใช้ of we)
หล่อนคิดถึงเรา

ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ เราจะวาง Preposition ไว้หน้า object ของมันเสมอ ยกเว้น object นั้นเป็นคำ Question Word จึงจะวาง Preposition ไว้หลังได้ เช่น
What are you looking at ?
คุณกำลังดูอะไรอยู่ ?
What are you thinking of ?
คุณกำลังคิดถึงอะไร ?
Which of these chairs did you sit on ?
บรรดาเก้าอี้เหล่านี้คุณนั่งตัวไหน ?
 
Prepositions ถ้าแบ่งตามชนิดของคำแล้วมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ
  1. Simple Preposition ได้แก่ บุรพบทที่เป็นคำเดียวโดดๆ เช่น

    in, on, at, for, by, with, of, like, down, per, from, off, till, out, through, near, since, over   เป็นต้น
  2. Compound Preposition ได้แก่ บุรพบทที่เป็นคำผสม ตั้งแต่ 2 พยางค์ขึ้นไป ทั้งนี้อาจเกิดจากการเติมคำอื่นหน้านามบ้างม หน้าคุณศัพท์บ้าง หรือหน้ากริยาวิเศษณ์บ้าง เช่น

    about, above, across, along, amidst, among, around, before, behind, below, beneath, beside, besides, between, beyond, despite, except, inside, into, outside, toward, under, until, upon, within, without   เป็นต้น
  3. Participial Preposition ได้แก่ บุรพบทที่มีรูปเช่นเดียวกับ Participle โดยลงท้ายด้วย ing เช่น


    barring
    ถ้าไม่มี, เว้นแต่ว่า
    during
    ในระหว่าง
    concerning
    ในเรื่อง, เกี่ยวกับ
    considering
    ถ้าพิจารณาถึง,เห็นว่า
    pending
    ระหว่าง, จนกว่า
    regarding
    ในเรื่อง, เกี่ยวกับ
    touching
    เกี่ยวเนื่องกับ
    notwithstanding
    แม้จะมี, แต่กระนั้น


  4. Phrasal Preposition ได้แก่ "บุรพบทวลี" หมายถึง หมู่คำหรือกลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็นบุรพบทคำเดียว เช่น

    as to, because of, by dint of, by means of, at home in   เป็นต้น

    Prepositions นอกจากแบ่งตามชนิดของคำแล้ว ยังแบ่งตามชนิด หรือลักษณะการใช้ได้ดังต่อไปนี้คือ
    1. Prepositions ที่แสดงเวลา และนิยมใช้กันมากได้แก่

      ใน
      เป็นจำนวนเวลา
      ตอนเวลา
      from
      จากเวลา
      เมื่อเวลา
      ประมาณ
      to
      ถึง
      before
      ก่อน
      about
      ประมาณ
      after
      หลัง
      between
      ระหว่าง
      ระหว่าง
      ตั้งแต่
      จนกระทั่ง
      through
      ตลอด
      throughout
      ตลอดเวลา
    2. Preposition ที่แสดงสถานที่ ซึ่งพบเห็นบ่อยและใช้กันมากได้แก่คำต่อไปนี้

      about
      รอบๆ, เกี่ยวกับ
      near
      ใกล้
      above
      เหนือ
      off
      ห่างออกไป
      across
      ข้าม
      on
      บน
      against
      ปะทะ
      over
      บน
      along
      ตาม
      past
      เลยไป
      ระหว่าง (มากกว่า 2)
      round
      รอบๆ
      ที่
      through
      ทะลุผ่าน
      by
      โดย, ข้าง
      to
      ถึง, ที่
      ใน
      towards
      เข้าสู่
      before
      ข้างหน้า
      under
      ใต้
      behind
      ข้างหลัง
      underneath
      ข้างใต้
      below
      ข้างล่าง
      up
      ขึ้น
      beneath
      ข้างใต้
      away from
      ออกมาจาก
      beside
      ข้างๆ
      far from
      ไกลไปจาก
      ระหว่าง (2 อย่าง)
      in front of
      ข้างหน้า
      beyond
      เลยไป, เกินกว่า
      out of
      ออกจาก
      down
      ต่ำลงไป
      at the back of
      ด้านหลังของ
      from
      จาก
      at the end of
      ตอนท้ายของ
      inside
      ข้างใน
      into
      เข้าไปใน
    3. Prepostion ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง (topics) และวิชา (subjects) ได้แก่คำต่อไปนี้

      about = เกี่ยวกับ เช่น

      A book about eats.
      หนังสือเกี่ยวกับโภชนาการ
      A story about a cat and a dog.
      นิทานเกี่ยวกับแมวและสุนัข

      on = เกี่ยวกับ (คำนี้นำมาใช้มากเมื่อเป็นการบรรยาย หรือเรื่องเกี่ยวกับข้อเขียน) เช่น
      A talk on Problems in Society.
      สนทนาเกี่ยวกับปัญหาสังคม
      A report on Education.
      รายงานการศึกษา

      of = บรรจุเรื่องเกี่ยวกับ เช่น
      A set of foreign stamps.
      ชุดแสตมป์ต่างประเทศ
      A collection of photographs.
      การสะสมภาพถ่ายต่างๆ
    4. Preposition ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับเนื้อวัตถุ (Materials) และส่วนผสม (ingredients) ได้แก่คำต่อไปนี้

      of = ใช้เมื่อเนื้อวัตถุที่นำมาทำหรือดัดแปลงนั้น ไม่เปลี่ยนไปจากสภาพเดิมนัก เช่น

      A bottle is made of glass.
      ขวดทำมาจากแก้ว
      A table is made of wood.
      โต๊ะทำมาจากไม้
      A ring is made of gold.
      แหวนทำมาจากทองคำ

      from = ใช้เมื่อเนื้อวัตถุที่นำมาทำนั้น แปรเปลี่ยนสภาพไปจากของเดิมโดยสิ้นเชิง เช่น
      Glass is made from sand.
      แก้วทำมาจากทราย
      Wine is made from gropes.
      เหล้าไวน์ทำมาจากองุ่น
      Bread is made from butter and sugar.
      ขนมปังทำจากเนยและน้ำตาล

      out of = ใช้แสดงที่มา, หรือแหล่งที่มาของสิ่งนั้นๆ เช่น
      The hut was made out of old planks.
      กระท่อมหลังนี้ทำขึ้นมาจากไม้กระดานเก่าๆ
      I made my first car out of three old ones.
      ผมประดิษฐ์รถคันแรกของผมขึ้นมาจากรถเก่า 3 คัน (ถอดชิ้นส่วนมา)

      with = ทำด้วย, ปกคลุมด้วย, ใส่ด้วย เช่น
      He fills the box with mangoes.
      เขาบรรจุกล่องจนเต็มด้วยมะม่วง
      She makes bread with flour, water and yeast.
      หล่อนทำขนมปังด้วยแป้ง น้ำ และยีสต์
      The mountain was covered with snow.
      ภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ

      without = ไม่มี, โดยปราศจาก เช่น
      You can’t make a table without wood.
      คุณไม่สามารถทำโต๊ะโดยไม่มีไม้
      Can you travel around the world without a ticket ?
      คุณสามารถเที่ยวรอบโลกได้โดยปราศจากตั๋วหรือ ?
    5. Preposition ที่แสดงความสัมพันธ์เกี่ยวกับ "จุดหมายปลายทาง" และจุดประสงค์ ได้แก่

      What..........for ? = สำหรับอะไร ?

      What is the money on the table for ?
      เงินที่อยู่บนโต๊ะนั้นสำหรับอะไร ?
      It’s for the waiter.
      สำหรับให้บ๋อย

      Who..........for ? = สำหรับใคร ?
      Who’s the letter for ?
      จดหมายฉบับนั้นของใคร ?
      It’s for Susan, not for you.
      ของซูซาน ไม่ใช่ของคุณหรอก

      Where..........for ? = สำหรับที่ไหน ?
      Where’s the plan of a road building for ?
      โครงการสร้างถนนครั้งนี้จะสร้างที่ไหน ?
      It’s for Bangna-Trad road.
      สำหรับสายบางนา-ตราด